เมื่อพูดถึงการวางแผนการเงิน สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึง มักหนีไม่พ้น 'การซื้อประกันชีวิต' ซึ่งนอกจากจะเป็นประตูหนีไฟด้านการเงินที่ช่วยคุ้มครองชีวิตแล้ว ยังมาพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย แต่เมื่อต้องตัดสินใจซื้อประกันชีวิต คนส่วนใหญ่มักมองเฉพาะตัวเงินที่เป็นตัวเลขเป็นสำคัญ และหลงลืมการคำนวณทุนประกันชีวิตไป แต่การได้วงเงินประกันสูง ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะตอบโจทย์ทุกครอบครัวเสมอไป แล้วเราควรมีวิธีการคำนวณอย่างไรให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิต ทั้งยังคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปในทุก ๆ ด้าน ?
ทุนประกันชีวิต และทุนประกันภัยคืออะไร ?
ทุนประกันชีวิต หมายถึงจำนวนเงินที่บริษัทประกันตกลงจะจ่ายให้กับผู้รับผลประโยชน์ในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตในระหว่างที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับ โดยวงเงินนี้จะถูกระบุไว้อย่างชัดเจนในกรมธรรม์ตั้งแต่วันแรกที่ทำประกัน
ในขณะที่ทุนประกันภัยคือจำนวนเงินที่บริษัทประกันจะจ่ายให้กับผู้เอาประกันตามเงื่อนไขความคุ้มครองที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ เช่น การจ่ายเมื่อเกิดการเจ็บป่วยร้ายแรง การทุพพลภาพ หรือการเสียชีวิต ครอบคลุมการคุ้มครองทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการประกันชีวิต การประกันสุขภาพ หรือการประกันทรัพย์สินโดยทุนประกันนี้อาจแตกต่างกันไปตามประเภทของประกันที่ซื้อและความเสี่ยงที่ครอบคลุมอยู่
ด้วยเหตุนี้ จึงสรุปได้ว่าทุนประกันชีวิตและทุนประกันภัยต่างก็เป็นจำนวนเงินที่บริษัทประกันจะจ่ายให้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เช่นเดียวกัน แต่ต่างกันในส่วนของเงื่อนไขและวัตถุประสงค์ ทุนประกันชีวิตเน้นการคุ้มครองในกรณีเสียชีวิตเท่านั้น ในขณะที่ทุนประกันภัยสามารถครอบคลุมหลายกรณี
ความสำคัญของทุนประกันที่ต้องรู้ก่อนซื้อประกันทุกชนิด
ทุนประกันเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อซื้อประกัน เนื่องจากมีผลต่อทั้งการคุ้มครองและค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันต้องจ่าย เบี้ยประกันที่สูงขึ้นอาจหมายถึงการคุ้มครองที่ครอบคลุมขึ้นด้วย โดยสามารถสรุปความสำคัญได้เป็นข้อ ๆ ดังนี้
- เป็นตัวกำหนดจำนวนเงินคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ทุนประกันจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า ครอบครัวจะได้รับเงินก้อนใหญ่พอที่จะรับมือกับการเสียรายได้หรือภาระการเงินที่เกิดจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน - เป็นตัวกำหนดเบี้ยประกันที่คุณต้องจ่ายในแต่ละปี
ยิ่งทุนประกันสูง ค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งสูงขึ้น การกำหนดทุนประกันที่เหมาะสมจึงสำคัญต่อการจัดการงบประมาณประจำปีให้ไม่เกินกว่าความสามารถทางการเงิน
- สร้างความมั่นใจในความคุ้มครองและเพิ่มความอุ่นใจให้ครอบครัว
เมื่อผู้เอาประกันรู้ว่าครอบครัวจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน จะทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจและไม่ต้องกังวลถึงภาระในอนาคต
วิธีคำนวณทุนประกันชีวิตให้เหมาะสม
การคำนวณทุนประกันชีวิตที่เหมาะสมสามารถทำได้หลายวิธี โดยสามารถพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ของผู้เอาประกัน ซึ่งวิธีที่ใช้บ่อยได้แก่ การคำนวณด้วยวิธีทวีคูณรายได้และการวิเคราะห์ความจำเป็นทางการเงิน
ปัจจัยที่ต้องใช้พิจารณา
- รายได้ประจำปี
รายได้ของผู้เอาประกันเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการกำหนดวงเงินประกันที่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้เอาประกันเป็นแหล่งรายได้หลักของครอบครัว - หนี้สินและภาระค่าใช้จ่าย
การคำนึงถึงหนี้สินหรือภาระที่ครอบครัวต้องรับผิดชอบ เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือค่าการศึกษาของลูก จะช่วยให้มั่นใจว่าวงเงินประกันเพียงพอ
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตของครอบครัว
การประเมินค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายปีของครอบครัวจะช่วยในการคำนวณทุนประกันชีวิตได้อย่างเหมาะสม
การคำนวณด้วยวิธีทวีคูณรายได้
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและนิยมใช้กันทั่วไป โดยมีหลักการคำนวณดังนี้
- สำหรับคนโสด : ทุนประกันควรเท่ากับรายได้ต่อปี x 5-7 เท่า
- สำหรับคนมีครอบครัว : ทุนประกันควรเท่ากับรายได้ต่อปี x 10-15 เท่า
- ตัวอย่าง : หากมีรายได้ปีละ 600,000 บาท และมีครอบครัว ควรมีทุนประกันประมาณ 6-9 ล้านบาท
การคำนวณด้วยวิธีวิเคราะห์ความจำเป็นทางการเงิน
วิธีนี้จะพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายและภาระการเงินของครอบครัวในระยะยาว เช่น ค่าใช้จ่ายรายเดือน หนี้สิน ค่าการศึกษา ค่าดูแลสุขภาพ และเป้าหมายการเงินในอนาคต วิธีนี้จะช่วยให้คำนวณวงเงินประกันได้แม่นยำและครอบคลุมตามความจำเป็นของแต่ละครอบครัว
ตัวอย่างการคำนวณด้วยวิธีวิเคราะห์ความจำเป็นทางการเงิน
- คุณเป็นหัวหน้าครอบครัว มีรายได้ปีละ 600,000 บาท และต้องการให้ครอบครัวสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้เป็นเวลา 10 ปีหลังจากที่คุณจากไป
- คุณมีหนี้สินที่ยังเหลืออีก 2,000,000 บาท ซึ่งต้องการให้ครอบคลุมในวงเงินประกัน
- ต้องการจัดสรรวงเงินสำหรับการศึกษาของลูก 1 คน ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 1,500,000 บาท
- นำจำนวนเงินทั้งหมดมารวมกันเพื่อได้ทุนประกันชีวิตที่ครอบคลุมตามความจำเป็นทางการเงินทั้งหมดที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งก็คือ 6,000,000 + 2,000,000 + 1,500,000 = 9,500,000 บาท
- ดังนั้น ในกรณีสมมตินี้ ทุนประกันชีวิตที่ควรมีคือ 9,500,000 บาท เพื่อให้ครอบคลุมทั้งค่าใช้จ่ายการดำเนินชีวิตของครอบครัว หนี้สิน และค่าใช้จ่ายทางการศึกษาของลูก วิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าแม้จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ครอบครัวก็จะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินที่เพียงพอในการดำเนินชีวิต
การตัดสินใจเลือกทุนประกันชีวิต
การคำนวณข้างต้นเป็นเพียงแนวทางพื้นฐานเท่านั้น สิ่งสำคัญคือผู้เอาประกันควรพิจารณาความสมดุลระหว่างความคุ้มครองและความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน โดยอย่าลืมคำนึงถึงค่าครองชีพในอนาคต เช่น การปรับวงเงินตามอัตราเงินเฟ้อหรือการเปลี่ยนแปลงรายได้ ซึ่งถ้าอยากคำนวณได้อย่างแม่นยำ วิธีที่ดีที่สุดคือการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อครอบครัว
เลือกทุนประกันชีวิตที่เหมาะสมที่สุด ปรึกษา Money Adwise
อยากคำนวณทุนประกันชีวิตให้สอดคล้องกับความต้องการอย่างแท้จริง ให้นักวางแผนการเงินคุณวุฒิ CFP® จาก Money Adwise ช่วยให้คำแนะนำ เราพร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต ช่วยวางแผนประกันสุขภาพ ประกันชีวิต การลดหย่อนภาษี ตลอดจนการวางแผนการเงินการลงทุนด้านอื่น ๆ อย่างครอบคลุม ลงทะเบียนรับคำปรึกษาครั้งแรก ไม่มีค่าใช้จ่าย
ข้อมูลอ้างอิง
Life Insurance Calculator: How Much Life Insurance Do I Need?. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.forbes.com/advisor/life-insurance/life-insurance-calculator/