การจัดสรรเงินลงทุนหรือการจัดพอร์ต คือหนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้การลงทุนบรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้ ทั้งในแง่ของผลตอบแทนและระยะเวลาการลงทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ คุณรัฐพล วชิรเมฆากุล (ุคุณชิน) นักวางแผนการเงินที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิ CFP® และผู้วางแผนการลงทุน (Investment Planner : IP) ของ Money Adwise จึงร่วมมือกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ออกแบบ MAGMA (Money Adwise Global Moderate Allocation) ขึ้นมา และนี่คือข้อดีของ MAGMA รวมถึงบุคคล 5 กลุ่มที่เหมาะกับการจัดพอร์ตการลงทุนในรูปแบบนี้
MAGMA (Money Adwise Global Moderate Allocation) คือ การจัดพอร์ตลงทุนความเสี่ยงระดับปานกลางด้วยแนวคิดการลงทุนที่พร้อมรับทุกสถานการณ์โดยใช้ Strategic Asset Allocation 100% ทำให้พอร์ตเติบโตอย่างมั่นคง เริ่มจัดตั้งในวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เน้นกระจายการลงทุนกับธุรกิจที่อยู่ใน Mega Trend ในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มเติบโตในหลายประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศอินเดีย ประเทศญี่ปุ่น ประเทศแคนาดา
แต่นอกจากการจัดสรรพอร์ตลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนแล้ว MAGMA ยังถูกออกแบบมาอย่างรอบคอบ พร้อมรับมือความผันผวนในภาวะ Bear Market (ช่วงเวลาที่นักลงทุนต้องการขายทรัพย์สินมากกว่าซื้อ) ด้วยกองทุนตราสารหนี้ที่มีความผันผวนต่ำ และมีกองทุนทองคำเพื่อช่วยรับมือวิกฤตที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ส่งผลให้เป็นอีกหนึ่งพอร์ตลงทุนที่มาพร้อมข้อดีมากมายสำหรับนักลงทุน ดังนี้
ข้อดีที่ทำให้ MAGMA น่าจับตามองมากเป็นพิเศษ คือการเลือกลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีอนาคต ไม่ว่าจะเป็นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี บริการด้านการเงิน การดูแลสุขภาพ การสื่อสาร และพลังงาน ซึ่งล้วนแต่เป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในระยะยาว อีกทั้งยังลงทุนในธุรกิจจากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระจายความเสี่ยงแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างผลตอบแทนจากธุรกิจที่หลากหลายในระยะยาวด้วย
ความผันผวนกับการลงทุนเป็นของคู่กัน MAGMA จึงถูกออกแบบให้มีหลากหลายสินทรัพย์ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับควบคุมความผันผวนและป้องกันความเสี่ยง เช่น กองทุนตราสารหนี้ กองทุนทองคำ จึงสามารถยืนหยัดสร้างผลตอบแทนและการเติบโตได้ในทุกสถานการณ์
MAGMA ใช้วิธีจัดสมดุลพอร์ตด้วยการทำ SAA (Strategic Asset Allocation) ซึ่งเป็นการจัดพอร์ตแบบผสมสินทรัพย์ เพื่อให้สอดคล้องกับผลตอบแทนที่คาดหวัง รวมทั้งช่วยให้ความผันผวนลดลง เนื่องจากสินทรัพย์แต่ละประเภทจะสลับกันสร้างผลตอบแทนตามสภาพเศรษฐกิจ
ข้อดีของ MAGMA ข้อสุดท้ายอาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม แต่กลับส่งผลต่อต้นทุนการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ นั่นก็คือการไม่ปรับพอร์ตบ่อย ๆ เพราะทุกครั้งที่มีการปรับพอร์ต จะก่อให้เกิด Transaction Cost จากค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ทำให้กำไรที่ควรจะได้รับลดลง และหากจำเป็นต้องปรับพอร์ต จะใช้วิธี Portfolio Rebalancing เพื่อคุมความเสี่ยงและสะสมผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ
จากข้อดีของ MAGMA ที่กล่าวถึงไปในข้างต้น กล่าวได้ว่า MAGMA คือพอร์ตลงทุนที่น่าจับตามองสำหรับการลงทุนระยะยาว และยังเหมาะกับกลุ่มคนเหล่านี้มากเป็นพิเศษด้วย
หากคุณเป็นนักลงทุนที่แสวงหาโอกาสในการจัดพอร์ตการลงทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนดี เน้นการกระจายความเสี่ยง และลงทุนได้ในระยะยาว MAGMA คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างรอบด้าน หากอยากวางแผนการลงทุนให้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น ปรึกษาทุกเรื่องการลงทุนและวางแผนการเงินกับนักวางแผนการเงินที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิ CFP® และผู้วางแผนการลงทุน (Investment Planner : IP) จาก Money Adwise โปร่งใส ตรงไปตรงมา ครอบคลุมทุกเรื่องวางแผนการเงิน ลงทะเบียนรับคำปรึกษาครั้งแรก ไม่มีค่าใช้จ่าย
ข้อมูลอ้างอิง:
FA Exclusive Port Money Adwise Global Moderate Allocation. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.finnomena.com/fa-magma/