เปลี่ยนชีวิตด้วย 7 คำถาม ก่อนเริ่มต้นการวางแผนการเงิน

ที่ปรึกษาทางการเงินให้คำแนะนำเรื่องการวางแผนการเงินกับคู่สามีภรรยา

หลายคนอาจคิดว่า ‘การวางแผนการเงิน’ เป็นเรื่องซับซ้อนที่เหมาะกับคนมีเงินเย็นก้อนใหญ่ และเป็นสิ่งที่อยู่ไกลเกินเอื้อม แต่ความจริงแล้ว การวางแผนการเงินคือการวางแผนชีวิตล่วงหน้าที่ทุกคนควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ เพราะเงินไม่ใช่เพียงสิ่งที่เราหาและใช้จ่ายในแต่ละวัน แต่เป็นเครื่องมือที่จะพาเราไปสู่เป้าหมายในอนาคตอย่างมั่นคง การมี Roadmap ทางการเงินที่ชัดเจนจึงเปรียบเหมือนเข็มทิศ ที่ช่วยให้คุณก้าวเดินได้อย่างมั่นใจ ลดการหลงทาง และเพิ่มโอกาสไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้นกว่าที่คิดหลายคนอาจคิดว่า ‘การวางแผนการเงิน’ เป็นเรื่องซับซ้อนที่เหมาะกับคนมีเงินเย็นก้อนใหญ่ และเป็นสิ่งที่อยู่ไกลเกินเอื้อม แต่ความจริงแล้ว การวางแผนการเงินคือการวางแผนชีวิตล่วงหน้าที่ทุกคนควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ เพราะเงินไม่ใช่เพียงสิ่งที่เราหาและใช้จ่ายในแต่ละวัน แต่เป็นเครื่องมือที่จะพาเราไปสู่เป้าหมายในอนาคตอย่างมั่นคง การมี Roadmap ทางการเงินที่ชัดเจนจึงเปรียบเหมือนเข็มทิศ ที่ช่วยให้คุณก้าวเดินได้อย่างมั่นใจ ลดการหลงทาง และเพิ่มโอกาสไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้นกว่าที่คิด

ที่สำคัญ การเริ่มต้นสร้าง Roadmap ด้านการเงินไม่ได้ยากอย่างที่หลาย ๆ คนคิด เพียงแค่เริ่มจากการตอบคำถามอันทรงพลังทั้ง 7 ข้อ ที่จะเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องเงิน และกำหนดทิศทางทางการเงินของคุณไปตลอดชีวิต

7 คำถามสำหรับการวางแผนการเงินอย่างทรงพลังและมีประสิทธิภาพ

เพราะจุดเริ่มต้นมักเป็นสิ่งที่เราคิดว่ายากเสมอ โดยเฉพาะการเริ่มต้นเกี่ยวกับเรื่องการเงินและวางแผนอนาคต แต่หากเรารู้สถานะทางการเงินของตนเองและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็จะช่วยให้สามารถวางแผนได้ตามเป้าหมายที่ต้องการได้ เพียงตอบคำถามเหล่านี้ให้ครบถ้วน  

1. เป้าหมายทางการเงินคืออะไร และต้องการบรรลุเป้าหมายนี้เมื่อไหร่ ?

การเริ่มต้นวางแผนการเงินต้องเริ่มจากการตั้งคำถามที่ทรงพลังที่สุด นั่นคือการทำความเข้าใจว่าอะไรคือเป้าหมายในชีวิตของคุณ เช่น การเกษียณอายุอย่างสุขสบาย การมีบ้านในฝัน การส่งลูกเรียนในโรงเรียนที่ดีที่สุด หรือการสร้างอิสรภาพทางการเงินเพื่อจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ

เป้าหมายที่ชัดเจนพร้อมกรอบเวลาที่แน่นอน จะเป็นเสมือนเข็มทิศที่ช่วยกำหนดทิศทางของทุกการตัดสินใจทางการเงิน และช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถออกแบบกลยุทธ์การออมและการลงทุนที่เหมาะสมกับช่วงเวลาและระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

2. มีรายได้จากช่องทางใดบ้าง และแต่ละช่องทางมีความมั่นคงหรือไม่ ?

การทำความเข้าใจแหล่งที่มาของรายได้ทั้งหมดเปรียบเสมือนการประเมินกำลังรบของกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นรายได้หลักจากงานประจำ รายได้เสริมจากธุรกิจส่วนตัว ค่าเช่า หรือเงินปันผล ในขณะที่ความมั่นคงของรายได้จะทำให้คุณเห็นภาพรวมของความสามารถในการออมและลงทุน นำไปสู่การวางแผนเพิ่มกระแสเงินสดในอนาคต 

3. ปัจจุบันมีหนี้สินเท่าไร ค่าอะไรบ้าง และดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์ ?

หนี้สินคือตัวแปรสำคัญในการวางแผนการเงิน เพราะหนี้แต่ละประเภทมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันไป จึงควรนำหนี้ที่มีมาคำนวณและจัดลำดับความสำคัญอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้น้ำหนักไปที่การเร่งจ่ายหนี้ดอกเบี้ยสูงให้หมดก่อน เพื่อสร้างสภาพคล่องทางการเงินและความมั่งคั่งระยะยาว

4. มีเงินสำรองฉุกเฉินเท่าไร ครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้กี่เดือน ?

เงินสำรองฉุกเฉินคือเกราะป้องกันทางการเงินที่ขาดไม่ได้ ช่วยให้คุณรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันโดยไม่ต้องแตะเงินลงทุนก้อนหลัก ไม่ว่าจะเป็นการตกงานกะทันหัน การซ่อมแซมบ้าน หรือค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน โดยทั่วไป เงินฉุกเฉินควรครอบคลุมค่าใช้จ่ายประจำอย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อให้คุณสามารถเดินหน้าตามแผนการเงินได้อย่างไร้กังวล

5. ระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ (Risk Tolerance) อยู่ในระดับใด ?

การทำความเข้าใจระดับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ ทั้งในเชิงความรู้สึกและสถานะทางการเงิน จะเป็นตัวกำหนดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เพื่อให้คุณลงทุนได้อย่างสบายใจ และไม่ตัดสินใจผิดพลาดเมื่อตลาดเกิดความผันผวน อีกทั้งยังทำให้นักวางแผนการเงินแนะนำเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายและช่วงอายุของคุณได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

6. มีประกันคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สินเพียงพอหรือยัง ?

ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันทรัพย์สิน เป็นตัวช่วยป้องกันความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น การเจ็บป่วยร้ายแรงหรือทุพพลภาพ ประกันที่มีความคุ้มครองเพียงพอจะช่วยรองรับค่าใช้จ่ายได้มหาศาล จึงต้องตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนก่อนการวางแผนการเงิน เพื่อไม่ให้แผนที่คุณสร้างมาพังทลายลงในพริบตา 

7. มีแผนการลงทุนและการปรับพอร์ตอย่างไรในระยะยาว ?

การลงทุนเพื่อวางแผนการเงินไม่ใช่การซื้อสินทรัพย์ครั้งเดียวแล้วจบ แต่คือการติดตามและปรับพอร์ตอย่างต่อเนื่อง เพราะแผนการลงทุนระยะยาวที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้คุณรักษาผลตอบแทนที่ต้องการได้ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการเดินทางทางการเงินของคุณจะราบรื่นและไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ

ตัวอย่างการวางแผนการเงินสำหรับคนอายุ 30 ปี

เพื่อให้เห็นภาพการวางแผนการเงินที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองไปดูตัวอย่างการวางแผนการเงินสำหรับคนอายุ 30 โดยข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องรู้มีดังนี้

  • อายุปัจจุบัน : 30 ปี
  • เป้าหมาย : เกษียณตอนอายุ 55 ปี (ระยะเวลา 25 ปี)
  • เงินเก็บเริ่มต้น : 100,000 บาท
  • รายได้ต่อเดือน : 50,000 บาท (หลังหักภาษีและประกันสังคมแล้ว)
  • ไม่มีหนี้สิน / ไม่มีภาระผ่อน
  • สมมติอัตราเงินเฟ้อ : 3% ต่อปี
  • สมมติผลตอบแทนการลงทุนระยะยาว : 6-7% ต่อปี

การคำนวณเป้าหมายเงินเกษียณ

สมมติว่าคุณต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณด้วยมาตรฐานใกล้เคียงกับปัจจุบัน โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 50% ของรายได้ต่อเดือนในปัจจุบัน หรือ 25,000 บาท

  • หากปรับตามอัตราเงินเฟ้อ 3% ต่อปี เมื่อถึงวัยเกษียณในอีก 25 ปีข้างหน้า เงินจำนวน 25,000 บาทในวันนี้จะมีมูลค่าเท่ากับประมาณ 52,000 บาทต่อเดือน
  • หากวางแผนที่จะมีชีวิตหลังเกษียณไปจนถึงอายุ 85 ปี จะต้องมีเงินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายรายเดือนไปอีก 30 ปี หรือประมาณ 18-20 ล้านบาท

การใช้สูตร Future Value เพื่อวางแผนการลงทุนให้บรรลุเป้าหมาย

Future Value (FV) หรือมูลค่าในอนาคต คือ มูลค่าของเงินในปัจจุบันที่จะเติบโตไปในอนาคตตามระยะเวลาที่กำหนด คำนวณได้ด้วยสูตร FV = PV (1 + i)n

  • FV (Future Value) : มูลค่าของเงินในอนาคตที่เราต้องการทราบ
  • PV (Present Value) : มูลค่าของเงินต้น หรือเงินที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน
  • i (Interest Rate per Period) : อัตราผลตอบแทนต่อปี (หรือต่อเดือน ขึ้นอยู่กับหน่วยของ n)
  • n (Number of Periods) : จำนวนงวดการลงทุนทั้งหมด (เช่น จำนวนปี หรือจำนวนเดือน)

หากมีเงินต้น 100,000 บาท นำไปลงทุนโดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 6.5% ต่อปี เป็นระยะเวลา 25 ปี เงินก้อนนี้จะเติบโตเป็น 492,550 บาท และถ้าต้องการมีเงิน 20 ล้านบาทสำหรับการเกษียณ จะต้องลงทุนเพิ่ม 20,000-22,000 บาทต่อเดือน โดยคิดอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 6.5% ต่อปีเช่นกัน

สัดส่วนการแบ่งรายได้ในการใช้จ่ายและลงทุน

การแบ่งสัดส่วนรายได้คือกุญแจสำคัญของการวางแผนการเงิน เบื้องต้นสามารถแบ่งรายได้ 50,000 บาทต่อเดือนให้เหมาะสมได้ ดังนี้

  • ลงทุนเพื่อเกษียณ 22,000 บาท (44%) ต้องทำอย่างสม่ำเสมอทุกเดือนเพื่อสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
  • ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 20,000 บาท (40%) สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือน
  • เงินสำรองฉุกเฉินและออมทั่วไป 5,000 บาท (10%) สะสมในบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงจนครบอย่างน้อย 6-12 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน
  • ออมเพื่อเป้าหมายระยะสั้น-กลาง 3,000 บาท (6%) สำหรับเป้าหมายอื่น ๆ เช่น การซื้อบ้าน การท่องเที่ยว หรือการศึกษาต่อ

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

  • ระยะยาว (25 ปี) เน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงแต่ให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว เช่น กองทุนรวมหุ้นไทยและต่างประเทศ (กองทุนดัชนี) และควรใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีผ่านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุน Thai ESG เพื่อสร้างวินัยการออม
  • ระยะกลาง (5-10 ปี) พิจารณากองทุนผสม (Balanced Fund) ซึ่งมีการลงทุนทั้งในหุ้นและตราสารหนี้ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต
  • ระยะสั้น (1-3 ปี) ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนตลาดเงิน (Money Market Fund) หรือเงินฝากดอกเบี้ยสูง

แนวทางการป้องกันความเสี่ยง

ในการวางแผนการเงิน ต้องไม่ลืมป้องกันความเสี่ยงด้วยการทำประกันสุขภาพที่วงเงินครอบคลุมค่ารักษา เพื่อรับมือกับค่ารักษาพยาบาลที่ไม่คาดฝัน การทำประกันชีวิตเพื่อเป็นหลักประกันสำหรับคนข้างหลัง และอาจพิจารณาทำประกันโรคร้ายแรงเพิ่มเติมด้วย

แผนการติดตามและปรับพอร์ตลงทุน

  • การรีวิวผลตอบแทนเทียบกับเป้าหมายทุกปี ตรวจสอบว่าผลตอบแทนการลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ หากต่ำกว่าเป้าหมายมาก อาจต้องพิจารณาปรับแผนการลงทุนหรือเพิ่มเงินออม
  • การปรับสัดส่วนสินทรัพย์ เมื่ออายุใกล้ 45-50 ปี ควรเริ่มลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลง และเพิ่มสัดส่วนในสินทรัพย์ที่มั่นคงมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด
  • เพิ่มเงินลงทุนเมื่อรายได้เพิ่มขึ้น ทุกครั้งที่รายได้เพิ่มขึ้น ควรเพิ่มสัดส่วนเงินลงทุนเพื่อเป้าหมายเกษียณให้มากขึ้นตามไปด้วย จะช่วยให้ถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นหรือมีเงินใช้ในวัยเกษียณมากขึ้น

ให้การวางแผนการเงินเป็นเรื่องที่เป็นไปได้และเข้าใจง่ายกว่าที่เคย ด้วยบริการวางแผนการเงินองค์รวมของ Money Adwise ช่วยคุณสร้างเส้นทางแห่งความมั่งคั่งโดยนักวางแผนทางการเงินที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ CFP® ไม่ว่าคุณจะอยากเกษียณเร็ว ต้องการสร้างมรดกไว้ให้คนข้างหลัง หรือมีเป้าหมายการเงินด้านใดก็ตาม เราก็พร้อมให้คำแนะนำทุกเรื่องแผนการเงินอย่างครอบคลุม ลงทะเบียนรับคำปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินครั้งแรกได้ที่หน้าเว็บไซต์ ไม่มีค่าใช้จ่าย

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. Time Value of Money (TVM). สืบค้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 จาก https://elearning.set.or.th/SETGroup/glossary/time-value-of-money

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้