10 วิธีเก็บเงินไปเที่ยว เดินทางสุขใจ ไม่กระทบเงินเก็บ

นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นอย่างสบายใจเนื่องจากวางแผนการออมเงินมาเป็นอย่างดี

การเก็บเงินไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องน่าเบื่อเสมอไป เพราะการวางแผนการเงินที่ดีคือบัตรผ่านทางสู่การเดินทางที่คุณใฝ่ฝัน และทำให้ทุกทริปที่คุณอยากไปไม่ไกลเกินเอื้อม ไม่ว่าจะไปปารีส มัลดีฟส์ หรือ Road Trip ข้ามประเทศ ล้วนใกล้ความจริงขึ้นได้ หากรู้จักบริหารจัดการและมีวิธีวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด

ปรับมุมมองให้การวางแผนการออมเงินไม่ใช่อุปสรรคของความสุข แต่คือตัวช่วยให้คุณท่องเที่ยวได้บ่อยขึ้นและมั่นใจว่าเงินเก็บยังคงเติบโต ด้วยการแยกเงินท่องเที่ยวออกจากเงินลงทุน วางแผนล่วงหน้า และมีวินัยในการใช้จ่าย และเมื่อแผนการเงินมีความสมดุล ความมั่นคงในอนาคตก็จะชัดเจน ทำให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ และสามารถท่องโลกไปพร้อม ๆ กัน


1. แยกบัญชีเงินเที่ยวออกจากเงินสำหรับการใช้ชีวิต และตั้งชื่อภารกิจในแต่ละบัญชี

หัวใจของการจัดการเงินแบบมืออาชีพคือการแบ่งงบประมาณและบัญชีอย่างชัดเจน การนำเงินเที่ยวไปรวมกับเงินออมหรือเงินใช้จ่ายประจำวันจะทำให้คุณรู้สึกผิดและสับสนทุกครั้งที่ใช้จ่าย แต่วิธีที่ทรงพลังที่สุดในการเก็บเงินไปเที่ยว คือการเปิดบัญชีเฉพาะกิจสำหรับทริปในฝัน กำหนดสัดส่วนเงินเก็บที่แน่นอน เช่น 10-15% โอนเข้าบัญชีนี้ทันทีที่เงินเดือนเข้า เพียงเท่านี้ คุณก็จะสนุกกับการเดินทางได้อย่างเต็มที่ เพราะรู้ว่าเงินก้อนอื่น ๆ ยังคงปลอดภัยตามแผนที่วางไว้


2. สร้างวินัยทางการเงินด้วย Auto-Debit ให้ระบบออมเงินแทนคุณ

วินัยทางการเงินที่ยั่งยืน เกิดขึ้นได้จากการมีระบบที่บังคับคุณให้ทำตามเป้าหมาย อย่างการประยุกต์ใช้ระบบออมอัตโนมัติ (Auto-Debit) โดยตั้งค่าให้ธนาคารโอนเงินส่วนของการออมและการลงทุนระยะยาวเข้าบัญชีที่กำหนดทันทีทุกเดือนก่อนที่คุณจะทันได้ใช้จ่าย วิธีนี้เป็นการจ่ายให้ตัวเองก่อน ถือเป็นเคล็ดลับของเศรษฐีหลายคน ทำให้เงินออมเติบโตอย่างมั่นคงโดยไม่รู้สึกว่าถูกบีบคั้น


3. จัดการ Travel Fund ให้เงินเติบโต เก็บเงินไปเที่ยวก็สร้างผลตอบแทนได้

เงินที่คุณกำลังเก็บไว้สำหรับทริปเที่ยวในอีก 6-12 เดือนข้างหน้าไม่ควรถูกแช่แข็งในบัญชีออมทรัพย์ที่ดอกเบี้ยต่ำจนแพ้เงินเฟ้อ แต่ควรถูกนำไปพักไว้ในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น กองทุนตลาดเงิน หรือ พันธบัตรระยะสั้น ซึ่งสามารถถอนออกมาใช้จ่ายได้ง่ายเมื่อถึงเวลาเดินทาง และยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินเฉย ๆ เป็นวิธีวางแผนการเงินสำหรับการเดินทางที่สร้างผลตอบแทนได้ในเวลาเดียวกัน



4. ลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างความมั่งคั่ง โดยห้ามดึงเงินอนาคตออกมาเที่ยว

หนึ่งในความผิดพลาดของคนที่กำลังเก็บเงินไปเที่ยว คือการนำเงินลงทุนระยะยาวออกมาใช้เที่ยว เพราะการสร้างความมั่งคั่งต้องอาศัยการเติบโตแบบทบต้นอย่างต่อเนื่อง ควรจัดสรรเงินลงทุนระยะยาวในสินทรัพย์ที่เน้นการเติบโต เช่น กองทุนรวมหุ้น, กองทุน ThaiESG, RMF, SSF หรือหุ้นปันผลคุณภาพดี เงินส่วนนี้เปรียบเสมือนฐานรากของอาณาจักรอิสรภาพทางการเงิน ดังนั้น อย่าให้ความสุขชั่วคราวจากการเดินทางมาทำลายโอกาสการเติบโตของเงินก้อนนี้โดยเด็ดขาด


5. ใช้สิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตท่องเที่ยว เปลี่ยนทุกค่าใช้จ่ายเป็นยอดไมล์

สำหรับนักเดินทาง บัตรเครดิตคือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนการเดินทาง แต่ไม่ใช่เครื่องมือสร้างหนี้ เลือกใช้บัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ด้านการเดินทางสูงสุด เช่น การสะสมไมล์ที่คุ้มค่า ส่วนลดโรงแรม หรือสิทธิ์เข้า Lounge โดยมีกุญแจสำคัญคือการชำระเต็มจำนวนทุกรอบบิลเสมอ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการแลกไมล์หรือส่วนลดแบบปราศจากดอกเบี้ย


6. วางแผนภาษีอย่างรอบคอบ ได้เงินคืนมาเป็นกองทุนเที่ยวทุกปี

การวางแผนภาษีและใช้สิทธิลดหย่อนอย่างเต็มที่ ถือเป็นการวางแผนการออมเงินที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนผ่านกองทุนลดหย่อนภาษี เบี้ยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือวิธีอื่น ๆ เงินภาษีที่คุณประหยัดได้จากแผนการลดหย่อนที่รอบคอบ สามารถนำมาเปลี่ยนเป็นกองทุนท่องเที่ยวพิเศษได้ หรือนำไปลงทุนต่อยอด ถือเป็นการใช้เงินภาษีอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


7. วางแผนเที่ยวอย่างชาญฉลาด ประหยัดแต่ไม่ลดคุณภาพ

การเที่ยวให้คุ้มค่าไม่ได้แปลว่าราคาต้องถูกเสมอไป แต่คือการวางแผนล่วงหน้าโดยใช้กลยุทธ์ง่าย ๆ ที่ช่วยลดต้นทุนก้อนใหญ่ เช่น การจองตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้าเพื่อล็อกราคาที่ดีที่สุด หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเทศกาลหรือ Peak Season รวมทั้งการใช้ไมล์แลกตั๋วเครื่องบินหรืออัปเกรดบัตรโดยสาร การวางแผนที่ชาญฉลาดอาจช่วยคุณลดค่าใช้จ่ายรวมได้ถึง 20-30% ทั้งยังช่วยให้ได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแบบครบถ้วนอีกด้วย 



8. สร้างเกราะป้องกันความเสี่ยงด้วยประกันเดินทางและกองทุนฉุกเฉิน

ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน แต่การไม่มีเกราะป้องกันความเสี่ยงเป็นความเสี่ยงที่แท้จริง เพื่อให้คุณเที่ยวอย่างอุ่นใจในทุกทริป นอกจากจะเก็บเงินไปเที่ยวแล้ว แนะนำให้เตรียมกองทุนฉุกเฉินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 3-6 เดือนเอาไว้เสมอ และทำประกันการเดินทางทุกครั้ง เพื่อรับมือกับค่าใช้จ่ายก้อนโตหากเกิดการเจ็บป่วยกลางทริป เกิดอุบัติเหตุ หรือเที่ยวบินถูกยกเลิก ที่สำคัญยังเป็นการป้องกันไม่ให้เงินเก็บได้รับผลกระทบโดยใช่เหตุด้วย 


9. วางเป้าหมายคู่ขนาน ทั้งการเที่ยวและการออม

เปลี่ยนความคิดที่ว่า การเที่ยวและการออมเป็นเสมือนทางแยก แต่ให้ใช้แนวคิดวิธีวางแผนการเงินแบบเป้าหมายคู่ขนานแทนที่ โดยกำหนดสัดส่วนที่ชัดเจน เช่น ตั้งเป้าออมและลงทุน 20% ของรายได้ต่อเดือน และตั้งเป้าเก็บเงินเที่ยว 10% การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนพร้อมกันจะช่วยลดความรู้สึกผิดในการใช้เงิน และสร้างความรู้สึกถึงความก้าวหน้าในทุกมิติของชีวิตได้


10. ประเมินและปรับแผนต่อเนื่อง เพราะแผนการเงินคือสิ่งมีชีวิต

สุดท้าย ต้องไม่ลืมว่าแผนการเงินไม่ใช่สิ่งที่ทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่เป็นสิ่งที่มีชีวิตและเติบโตไปพร้อมกับคุณ สิ่งที่ต้องทำคือการทบทวนแผนการเงินทุก ๆ 6-12 เดือน เพื่อดูว่าผลตอบแทนการลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ และสัดส่วนการออมกับการเที่ยว ยังคงเหมาะสมกับรายได้และภาระที่เปลี่ยนไปหรือยัง การปรับแผนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเป้าหมายชีวิตได้ทันท่วงที ทำให้การเดินทางสู่ความมั่งคั่งไม่หลงทิศทางอย่างแน่นอน


ไม่ใช่แค่เป้าหมายด้านการท่องเที่ยว แต่ทุกเป้าหมายในชีวิตของคุณสามารถเป็นจริงได้ เพียงมีวิธีวางแผนการเงินที่รอบคอบและรัดกุม ทำให้เรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย ด้วยบริการรับวางแผนการเงินส่วนบุคคลของ Money Adwise ที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดเพื่อวางเส้นทางความมั่งคั่งให้คุณและครอบครัว ให้บริการโดยที่ปรึกษาด้านการเงินที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ CFP® ลงทะเบียนรับคำปรึกษาครั้งแรก ไม่มีค่าใช้จ่าย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้