ข้อควรรู้ก่อนลงทุนในตลาดต่างประเทศด้วยกลยุทธ์ Contrarian Investing

ลงทุนในตลาดต่างประเทศด้วย Contrarian Investing

ผู้เขียน รัฐพล วชิรเมฆากุล CFP®

ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกผันผวนจนทำให้ตลาดการลงทุนอยู่ในภาวะขาลงอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนในตลาดต่างประเทศจำนวนไม่น้อยต่างเลือกมองหาผลิตภัณฑ์การลงทุนทดแทน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ทั้งช่วงตลาดขาขึ้นและลง อย่าง Derivative Warrant (DW) ไปจนถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตเคอเรนซี

อย่างไรก็ดี นักลงทุนบางส่วนเองก็ให้ความสำคัญกับการเลือกกลยุทธ์เปิดพอร์ตซื้อขายหุ้นต่างประเทศใหม่เพื่อฝ่าวิกฤตความผันผวนนี้ ซึ่ง Contrarian Investing เองก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่หลายคนเชื่อว่า สามารถสร้างผลตอบแทนสวนกระแสความผันผวนของตลาดได้ แต่ก่อนที่จะปรับใช้กลยุทธ์ Contrarian Investing ในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ลองมาเช็กข้อควรรู้ของกลยุทธ์นี้จากที่ปรึกษาด้านการลงทุนในต่างประเทศกันก่อน

 

รู้จัก Contrarian Investing

ก่อนที่จะไปออกแบบพอร์ตการลงทุนต่างประเทศด้วยกลยุทธ์ Contrarian Investing ให้มีประสิทธิภาพ นักลงทุนควรมีความเข้าใจเรื่องแนวคิดของกลยุทธ์ Contrarian Investing ที่ถูกต้องเสียก่อน

Contrarian Investing คือ กลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่นักลงทุนจะตัดสินใจซื้อขายผลิตภัณฑ์การลงทุน “สวนทาง” กับกระแสของตลาด ซึ่งกลยุทธ์นี้สามารถปรับใช้ได้ทั้งในช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะขาขึ้นอย่าง Bull Market อีกทั้งยังได้รับความนิยมในช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะขาลง หรือช่วง Bear Market อีกด้วย

เช่น หากตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาลงจนทำให้นักลงทุนต้องเทขายผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างผลตอบแทนก่อนขาดทุน นักลงทุนที่ลงทุนด้วยกลยุทธ์ Contrarian Investing จะเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง แต่หากนักลงทุนในตลาดกำลังเข้าซื้อผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างหนักหน่วง นักลงทุนด้วยกลยุทธ์ Contrarian Investing ก็จะเริ่มเทขาย

แม้จะดูค่อนข้างสุดโต่ง แต่ Contrarian Investing กลับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่นักลงทุนระดับโลกมากมายนำไปปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์การลงทุนของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น George Soros, Charlie Munger, David Dreman, Bill Ackman หรือแม้แต่ Warren Buffet เองก็เป็นนักลงทุนสาย Contrarian Investing เช่นกัน

 

หลักการจัดพอร์ตเบื้องต้นแบบ Contrarian Investing

เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ นักลงทุนหลายคนคงเริ่มสงสัยว่า การลงทุนที่สวนทางกับกระแสของตลาดเช่นนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพในตลาดแต่ละช่วงเวลาได้อย่างไร  

คำตอบง่าย ๆ คือ นักลงทุนด้วยกลยุทธ์ Contrarian Investing จะต้องมีหลักการในการออกแบบพอร์ตให้เหมาะสมกับทั้งการลงทุนต่างประเทศและการลงทุนทุกสนาม ควบคู่ไปกับความเข้าใจในสินทรัพย์การลงทุนอย่างถูกต้อง ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว หลักการในการจัดพอร์ตแบบ Contrarian Investing เริ่มต้นได้ด้วยการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

 

  1. เข้าใจ Sentiment ที่เกิดขึ้นในตลาด

    “Sentiment” หรือ “ความรู้สึก” ของนักลงทุน เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสภาวะขึ้น - ลงของตลาด หากยังนึกภาพไม่ออกล่ะก็ ลองคิดถึงตัวอย่างง่าย ๆ ว่า หากอยู่  ๆ มีสินทรัพย์ใดในตลาดให้ผลตอบแทนที่สูง นักลงทุนส่วนใหญ่อาจรีบแห่เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์นั้น เนื่องจาก “เชื่อว่า” จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูง “เหมือนกับคนอื่น” หรือ ความรู้สึก “กลัวตกเทรนด์” อย่าง Fear of Missing Out หรือ FOMO แต่เมื่อใดที่สินทรัพย์นั้นมีความนิยมลดลง นักลงทุนจึงมักเกิดความรู้สึก “กลัวขาดทุน” ทำให้เกิดการเทขายและราคาตกลงอย่างต่อเนื่อง

    ไม่ว่าจะเป็น “ความรู้สึกกลัว” แบบใด หากต้องลงทุนด้วยกลยุทธ์ Contrarian Investing นักลงทุนจะต้องเข้าใจถึงสาเหตุและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นผ่านการทำ Market Research ที่ละเอียด วิเคราะห์ทุกความเป็นไปได้อย่างรอบด้าน จากนั้น หากเห็นว่ายังมีโอกาสฟื้นตัว อาจเลือกพิจารณาเข้าซื้อสินทรัพย์ตัวที่กำลังขาดทุนเพราะตกเทรนด์ หรืออาจเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครให้ความสนใจ เพื่อจับจังหวะสร้างผลตอบแทน

    กรณีตัวอย่าง: ในช่วงปลายยุค 90 ที่หุ้นเทคโนโลยีกำลังมาแรง Warren Buffet กลับเลือกลงทุนในโลหะเงิน 130 ล้านออนซ์ที่กำลังอยู่ในจุดต่ำสุดแทน และเมื่อเกิดเหตุการณ์ The Great Recession ในปี 2008 ที่ทำให้ภาคการเงินล่มสลาย Warren Buffet กลับสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนโลหะเงินนี้ และสามารถนำผลกำไรมาฟื้นตัวได้

  2. มองหาความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้น

    เมื่อตลาดอยู่ในภาวะขาขึ้น คงมีนักลงทุนน้อยคนที่จะคิดถึงโอกาสการขาดทุน แต่สำหรับใครที่ต้องการออกแบบพอร์ตการลงทุนต่างประเทศและไทยด้วยกลยุทธ์ Contrarian Investing สิ่งสำคัญที่ต้องทำ คือ การตั้งสมมติฐานสวนทางขึ้นมาว่า แล้วถ้าสมมติตลาดอยู่ในภาวะขาลงขึ้นมา จะมีสินทรัพย์ใดที่สามารถซื้อขายเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพเท่าเดิมได้อยู่บ้าง ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยทำให้นักลงทุนมองเห็นโอกาสอื่น ๆ ที่สวนทางกับทิศทางของตลาด เปรียบเสมือนไพ่สำรองที่ช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตได้นั่นเอง

  3. วางแผนการลงทุนระยะยาว

    Contrarian Investing เป็นการลงทุนที่ต้องอาศัยความอดทนและระยะเวลาในการเห็นผล อีกทั้งยังต้องอาศัยการวางแผนเลือกสินทรัพย์ที่ค่อย ๆ สร้างผลตอบแทนได้ โดยอาจเลือกลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนจากบริษัทที่ไม่มีหนี้สินจำนวนมาก มี Economic Moats ที่ดี หรือ มีศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเลือกกระจายสินทรัพย์การลงทุนให้เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ พร้อมวางแผนรับมือความเสี่ยง เช่น เลือกซื้อขายหุ้นต่างประเทศ พร้อมพิจารณาเลือกกองทุนรวมเพื่อลงทุน

  4. พิจารณามูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic Value)

    กลยุทธ์จัดพอร์ตแบบ Contrarian Investing จะมองหาสินทรัพย์การลงทุนที่มีราคาสูง หรือ ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic Value) ซึ่งหากเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง เมื่อราคาสินทรัพย์ดังกล่าวสูงขึ้น นักลงทุนก็จะได้กำไรส่วนต่างสูง

 

 

รู้หรือไม่?

วิธีซื้อขายหุ้นต่างประเทศแบบ Contrarian Investing กับ Value Investing นั้นอาจมีแง่มุมเหมือนกันในการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง 

แต่กลยุทธ์ Value Investing จะพิจารณาปัจจัยในระยะยาวเป็นหลัก กล่าวคือ การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในระยะสั้นนั้นไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานและประสิทธิภาพในระยะยาว แต่การลงทุนแบบ Contrarian Investing ยังมีการปรับกลยุทธ์เพื่อการลงทุนในระยะสั้นอยู่บ้าง 

นอกจากนี้ การลงทุนแบบ Value Investing ยังมีการพิจารณาอัตราส่วนทางการเงินและปัจจัยพื้นฐานร่วมเพื่อวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในขณะที่การลงทุนแบบ Contrarian Investing จะมองหาทั้งสินทรัพย์ที่มีราคาสูง หรือ ต่ำมากในตลาดเพื่อวางแผนซื้อขาย

 

ข้อดีและข้อควรระวังในการทำ Contrarian Investing

แม้จะดูเป็นกลยุทธ์ที่ธรรมดา หลายคนคิดว่าแค่ลงทุนสวนทางกับตลาดก็เห็นผลลัพธ์แล้ว แต่ในความเป็นจริงนั้น Contrarian Investing เป็นกลยุทธ์ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด อาศัยการหาข้อมูลทั้งทิศทางตลาด ประสิทธิภาพการบริหารงานของธุรกิจ พร้อมวิเคราะห์อย่างรอบด้านก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนสวนทางกับกระแสตลาด เพราะในบางครั้ง กระแสการลงทุนบางอย่างก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพในระยะสั้นและยาวได้ ซึ่งหากไม่พิจารณาในส่วนนี้ให้ดีก็อาจทำให้เสียโอกาสการลงทุนเช่นกัน

นอกจากนี้ การสร้างกลยุทธ์การลงทุนแบบ Contrarian Investing ยังต้องอาศัยเวลาและความอดทนในการเข้าใจทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง ที่สำคัญ การลงทุนแบบ Contrarian Investing มีค่าเสียโอกาสในหลายด้าน เช่น มูลค่าของเงินที่เปลี่ยนแปลงไป และระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์ที่นาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในตลาดต่างประเทศ ดังนั้น นักลงทุนจะต้องมีความอดทนและทำตามแผนลงทุนอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังต้องควบคุมอารมณ์ในการลงทุนให้ดีอีกด้วย

 

อย่างไรก็ดี Contrarian Investing ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การลงทุนที่มาพร้อมความเสี่ยงเช่นกัน ซึ่งไม่เพียงแต่จะต้องวางแผนการลงทุนให้รอบคอบ พร้อมศึกษาทุกรายละเอียดในตลาดเท่านั้น แต่นักลงทุนยังควรวางแผนทางการเงินร่วมด้วย ทั้งนี้เพื่อสร้างสภาพคล่องทางการลงทุนและไปสู่เป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ  

Money Adwise มาพร้อมบริการลงทุนต่างประเทศและทั่วโลก พร้อมช่วยออกแบบพอร์ตการลงทุนต่างประเทศและไทย โดยที่ปรึกษาด้านการลงทุนในต่างประเทศ และนักวางแผนการเงินที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ CFP® ให้สอดคล้องกับสภาพคล่องและแผนทางการเงินเพื่อไปสู่เป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ นัดปรึกษาครั้งแรกฟรี!

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้