ผู้เขียน รัฐพล วชิรเมฆากุล CFP®
การลงทุนแบบ DCA เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการลงทุนที่นักลงทุนทุกระดับต้องรู้จักเป็นอย่างดี โดยประโยชน์ของการลงทุนแบบ DCA นั้นจะสามารถช่วยถัวเฉลี่ยการลงทุนได้ ทั้งยังช่วยเพิ่มวินัยในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ตอบโจทย์กับเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ แม้จะเป็นนักลงทุนมือใหม่ก็ตาม
อย่างไรก็ดี การลงทุนแบบ DCA ก็ยังมีรายละเอียดมากมายที่หลายคนยังสงสัยอยู่ไม่น้อย อย่างเช่น 5 ข้อสงสัยเกี่ยวกับเทคนิคลงทุน DCA ที่ผู้ให้คำปรึกษาด้านขั้นตอนการวางแผนการลงทุนจาก Money Adwise จะมาอธิบายให้ฟัง
แต่ก่อนที่จะมาไขข้อสงสัยของใครหลายคน ลองมาทำความเข้าใจกันอีกสักหน่อยว่า DCA คืออะไร มีหลักการและแนวคิดที่นำมาปรับใช้ในการลงทุนได้อย่างไรบ้าง
โดยการลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging หรือ DCA เป็นการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยที่นักลงทุนจะทำการเข้าซื้อสินทรัพย์ด้วย “เงินลงทุน” หรือ “จำนวนหน่วยลงทุน” ที่กำหนดไว้เท่ากันทุกงวด โดยจะไม่มีการคำนึงถึงราคาของสินทรัพย์ในขณะที่ทำการเข้าซื้อ ทำให้ตัดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ของนักลงทุนออกไปได้ ทั้งยังช่วยเพิ่มวินัยในการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนไปสู่เป้าหมายที่ต้องการในระยะยาวได้
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ นักลงทุนหลายคนอาจสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า การลงทุนแบบ DCA นั้นจะช่วยถัวเฉลี่ยการลงทุนได้อย่างไรบ้าง ที่ปรึกษาทางการเงินจาก Money Adwise ขออธิบายว่า เทคนิคลงทุน DCA จะเป็นลักษณะการลงทุนในจำนวนที่เท่ากันอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะสามารถช่วยถัวเฉลี่ยต้นทุนการลงทุนให้ต่ำลงได้
ตัวอย่างเช่น
หากนาย Money ลงทุนกองทุนรวมแบบ DCA เดือนละ 1,000 บาท ซึ่งจะได้ราคาหน่วยลงทุนและจำนวนหน่วยลงทุน ดังนี้
เดือนที่ | ราคาหน่วยลงทุน (ต่อหน่วย) | จำนวนหน่วยลงทุน |
1 | 10 | 100 |
2 | 7 | 142.85 |
3 | 9.25 | 108.10 |
4 | 10 | 100 |
5 | 8 | 125 |
6 | 9 | 111.11 |
สรุปภาพรวม 6 เดือน นาย Money มีหน่วยลงทุนทั้งหมดอยู่ที่ 687.06 หน่วย ต้นทุนเฉลี่ยการลงทุนจะอยู่ที่ 8.732 บาท / หน่วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ นาย Money จะได้กำไรจากพอร์ตการลงทุนนี้อยู่ที่ [(687.06 x 9) - 6,000] ÷ 6,000 = 0.03059% ซึ่งหากลงทุนต่อไปก็มีอาจสร้างผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพต่อได้
การปรับใช้เทคนิคการลงทุนแบบ DCA สามารถทำได้อย่างหลากหลาย โดยหนึ่งเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การเลือกวันตัดบัญชีลงทุน เช่น เลือกตัดบัญชีทุกวันจันทร์ อังคาร ศุกร์ หรือเลือกตัดบัญชีลงทุนวันที่ 15 หรือวันที่ 25 แทนที่จะเป็นวันอื่น เนื่องจากเชื่อว่าวันต่าง ๆ เหล่านี้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าได้
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกวันและเวลาในการลงทุนแบบ DCA นั้นไม่ได้ส่งผลกระทบที่ชัดเจนต่อการสร้างผลตอบแทน เนื่องจากตลาดการลงทุนของแต่ละสินทรัพย์มีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป ทั้งยังมีความผันผวนในแต่ละช่วงที่ไม่เหมือนกันด้วย
ดังนั้น ผู้ให้บริการที่ปรึกษาด้านการลงทุนส่วนใหญ่จึงแนะนำให้ลงทุนในวันและเวลาที่สะดวกมากกว่า เช่น อาจเลือกตัดเงินลงทุนในวันที่เงินเดือนออก หรือ เลือกวันและเวลาที่จะจัดการค่าใช้จ่ายออกไปทั้งหมดก่อนที่จะนำเงินไปลงทุน เป็นต้น
ที่ปรึกษาด้านขั้นตอนการวางแผนการลงทุนจาก Money Adwise ขออธิบายว่า ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน DCA แบบกำหนดเงินลงทุน หรือ หน่วยลงทุนก็ไม่ได้ส่งผลกระทบที่ชัดเจนต่อการสร้างผลตอบแทน อย่างไรก็ดี การลงทุน DCA แบบกำหนดเงินลงทุนจะช่วยให้นักลงทุนบริหารพอร์ตได้อย่างสะดวกขึ้น เนื่องจากสามารถกำหนดงบประมาณการลงทุนได้ง่ายกว่า ทั้งยังช่วยลดความผันผวนในการสร้างผลตอบแทนได้อีกด้วย
เพราะหากอยู่ในช่วงตลาดขาขึ้น ต้นทุนการลงทุนก็จะสูงขึ้น ทำให้ซื้อหน่วยลงทุนได้น้อยลง แต่เมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาลง ต้นทุนการลงทุนก็จะต่ำลง ทำให้ซื้อหน่วยลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งหากมองในระยะยาวตามความผันผวนของตลาดการลงทุนแล้ว การลงทุนแบบกำหนดเงินจะช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยได้มากกว่า ทั้งยังมีความผันผวนน้อยกว่าอีกด้วย
การลงทุน DCA เป็นเทคนิคที่สามารถปรับใช้ได้กับการลงทุนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวม หุ้นไทยและต่างประเทศ ตราสารหนี้ หรือจะเลือกลงทุนในหุ้นกู้ก็ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี การลงทุนแบบ DCA อาจไม่เหมาะกับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงมาก หรือ เป็นการลงทุนที่มีการสร้างผลตอบแทนระยะสั้น เช่น สกุลเงินดิจิทัล สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ไปจนถึง DW เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูงและมีเงื่อนไขการสร้างผลตอบแทนเฉพาะตัว
ประโยชน์ของการลงทุนแบบ DCA คือ การช่วยความเสี่ยงทั้งจากอารมณ์นักลงทุนและต้นทุนการซื้อสินทรัพย์ ทำให้เหมาะสำหรับการลงทุนเพื่อค่อย ๆ สร้างผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่าการสร้างผลตอบแทนสูงสุดในระยะกลางและสั้น
ด้วยเหตุนี้ เพื่อผลตอบแทนที่เป็นไปตามที่ต้องการในระยะยาว ไม่ว่าจะลงทุนด้วยเงินหลักพัน หรือ หลักแสน นักลงทุนจึงควรกำหนดเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน จากนั้นจึงกำหนดระยะเวลาและอัตราผลตอบแทนที่ต้องการ พร้อมเลือกสินทรัพย์ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างลงตัว สุดท้ายจึงคำนวณงบประมาณที่ใช้ลงทุนในแต่ละเดือนที่เหมาะสมกับรายได้และสภาพการเงินในปัจจุบัน และเมื่อมีรายรับเพิ่มขึ้นก็สามารถขยายเงินลงทุนเพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นได้
อย่างไรก็ดี นอกเหนือจาก DCA แล้ว บนโลกนี้ยังมีเทคนิคการลงทุนอีกมากเพื่อให้นักลงทุนได้ปรับใช้และเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ตอบโจทย์และตรงกับเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ แต่หากยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร หรือ ไม่รู้ว่าควรวางแผนการลงทุนอย่างไรให้เหมาะสม สามารถมาปรึกษาและรับขั้นตอนการวางแผนการลงทุนกับที่ปรึกษาทางการเงินและนักวางแผนทางการเงินที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ CFP® จาก Money Adwise ได้แล้ววันนี้ ครั้งแรกฟรี! นัดเวลาที่สะดวกได้ที่นี่