Insurtech คืออะไร ? เทคโนโลยีประกันภัยที่กำลังเปลี่ยนโลก

Insurtech คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวซื้อประกันง่ายและสะดวกมากขึ้น

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกวงการ “ธุรกิจประกันภัย” ก็ไม่ต่างกัน การเกิดขึ้นของ Insurtech (Insurance Technology) ได้เข้ามายกระดับวิธีการทำงานของบริษัทประกันภัย ตั้งแต่ขั้นตอนการซื้อกรมธรรม์ การเคลม ไปจนถึงบริการหลังการขาย ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องง่าย สะดวก และโปร่งใสมากขึ้น

ปัจจุบัน Insurtech ในไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วและเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา

Insurtech คืออะไร ?

Insurtech คือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาผสมผสานกับกระบวนการทำงานของธุรกิจประกันภัย เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด จุดประสงค์หลักของ Insurtech คือการ “ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้” และ “เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ระบบประกันภัย”

ตัวอย่างเช่น การใช้ระบบ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อคำนวณเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม การอนุมัติกรมธรรม์ผ่านระบบอัตโนมัติ หรือการให้บริการหลังการขายผ่านแชตบอตโดยไม่ต้องรอคิว การบูรณาการเหล่านี้ทำให้การซื้อประกันภัยเข้าถึงง่าย โปร่งใส และตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น และยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสมัครตัวแทนประกันได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยเสริมการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Insurtech ทำงานอย่างไร ?

ระบบ Insurtech อาศัยการทำงานของเทคโนโลยีดิจิทัลในขั้นตอนของกระบวนการประกันภัย ตั้งแต่การเลือกซื้อกรมธรรม์ไปจนถึงการเคลมและบริการหลังการขาย โดยมีกระบวนการหลักดังนี้

การเลือกซื้อกรมธรรม์ออนไลน์

ลูกค้าสามารถเข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทประกันภัยเพื่อค้นหาและเปรียบเทียบกรมธรรม์ได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องผ่านตัวแทนอีกต่อไป

การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า

ระบบจะรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล เช่น ประวัติสุขภาพ พฤติกรรมการขับขี่ หรือรูปแบบการใช้ชีวิต เพื่อนำเสนอกรมธรรม์ที่เหมาะสมที่สุดกับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล

การทำสัญญาและการชำระเงินดิจิทัล

เมื่อตัดสินใจซื้อแล้ว ลูกค้าสามารถเซ็นสัญญาและชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ที่มีความปลอดภัยสูง โดยไม่ต้องใช้เอกสารกระดาษ

บริการหลังการขายอัตโนมัติ

หลังจากซื้อประกันภัยและมีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามหรือแจ้งเคลมผ่าน Chatbot หรือ Virtual Assistant ซึ่งช่วยให้การดูแลลูกค้าเป็นเรื่องรวดเร็วและต่อเนื่อง

Insurtech เทคโนโลยีประกันภัยที่กำลังเปลี่ยนวงการ

เบื้องหลังความสำเร็จของ Insurtech คือการนำเทคโนโลยีหลายประเภทมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน เพื่อพัฒนาทั้งการให้บริการและการบริหารจัดการภายในองค์กร ซึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่กำลังขับเคลื่อนวงการประกันภัย ได้แก่

AI และ Machine Learning

ใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลจากลูกค้า เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยง คำนวณเบี้ยประกันภัย และตรวจจับการทุจริตในการเคลมประกันได้อย่างแม่นยำ

Blockchain

เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลกรมธรรม์ รวมถึงทำให้การชำระเงินและการเคลมประกันภัยสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างชัดเจน

Chatbot และ Virtual Assistant

เข้ามาช่วยตอบคำถามและดูแลลูกค้าแบบเรียลไทม์ ลดภาระของเจ้าหน้าที่ และทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับการดูแลตลอดเวลา

Usage-Based Insurance (UBI)

การคิดเบี้ยประกันภัยตามพฤติกรรมจริง เช่น พฤติกรรมการขับขี่ของผู้เอาประกันรถยนต์ หรือข้อมูลสุขภาพจากอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Devices) เพื่อให้ได้เบี้ยฯ ที่ยุติธรรมและตรงกับความเสี่ยงมากที่สุด

เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงเปลี่ยนวิธีให้บริการของบริษัทประกันภัยเท่านั้น แต่ยังเปิดทางให้ตัวแทนรุ่นใหม่ที่ต้องการสมัครตัวแทนขายประกันออนไลน์ สามารถทำงานควบคู่กับระบบดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย 

ประโยชน์ของ Insurtech

Insurtech ไม่ได้เป็นเพียง “นวัตกรรมทางเทคโนโลยี” เท่านั้น แต่ยังเป็น “เครื่องมือทรงพลัง” ที่ช่วยยกระดับวงการประกันภัยให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในมุมของลูกค้าและบริษัทประกันภัยเอง

ประโยชน์ต่อผู้บริโภค

  • การซื้อประกันภัยกลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวก สามารถเปรียบเทียบและซื้อได้ผ่านมือถือหรือเว็บไซต์ ไม่ต้องผ่านตัวแทนขายประกันอีกต่อไป
  • ขั้นตอนการเคลมยุ่งยากน้อยลง เพราะสามารถทำผ่านระบบอัตโนมัติที่รวดเร็วและไม่ต้องใช้เอกสารจำนวนมาก
  • เบี้ยประกันภัยถูกคำนวณจากพฤติกรรมส่วนบุคคล เช่น พฤติกรรมการขับรถหรือสุขภาพของผู้ซื้อประกันภัย ทำให้ได้ราคาที่เป็นธรรมและเหมาะสม
  • ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ได้ด้วยตนเองแบบเรียลไทม์ เพิ่มความโปร่งใสและความสบายใจในการใช้บริการ

  

ประโยชน์ต่อบริษัทประกันภัย

  • ลดต้นทุนการดำเนินงานด้วยระบบดิจิทัลที่จัดการงานเอกสารและกระบวนการต่าง ๆ ได้อย่างอัตโนมัติ
  • เข้าใจลูกค้ามากขึ้นผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytics) เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจ
  • เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

  

Insurtech จึงไม่ใช่แค่ “ทางเลือก” แต่กำลังกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ของอุตสาหกรรมประกันภัยในยุคดิจิทัล

ความท้าทายของ Insurtech ในไทย

แม้ว่า Insurtech จะมอบโอกาสมากมายในการพัฒนาธุรกิจประกันภัย แต่เส้นทางการปรับตัวก็ไม่ได้ง่ายเสมอไป เพราะการเปลี่ยนแปลงเชิงเทคโนโลยีต้องอาศัยทั้ง “ความพร้อมของระบบ” และ “ความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค” ควบคู่กันไป

กฎระเบียบทางกฎหมาย

กฎหมายด้านธุรกิจประกันภัยในไทยยังไม่สามารถขยับตัวได้เร็วเท่ากับนวัตกรรมที่เกิดขึ้น ทำให้หลายบริษัทต้องใช้เวลาขออนุมัติหรือปรับตัวให้เข้ากับข้อบังคับที่มีอยู่ ซึ่งอาจทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ล่าช้าไปบ้าง

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 

แม้คนรุ่นใหม่จะเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อประกันออนไลน์ แต่คนส่วนใหญ่ยังคงให้ความไว้วางใจกับการซื้อผ่าน “ตัวแทน” มากกว่า เพราะต้องการคำแนะนำแบบใกล้ชิดและความมั่นใจในการตัดสินใจ การสร้างความเชื่อมั่นผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลจึงเป็นสิ่งที่ Insurtech ต้องให้ความสำคัญ

ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

อีกหนึ่งความท้าทายของ Insurtech คือการปกป้องข้อมูลลูกค้าที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลสุขภาพและการเงิน เพราะแม้เทคโนโลยีจะช่วยให้บริการรวดเร็วขึ้น แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หากระบบไม่แข็งแรงพอ อาจเกิดการรั่วไหลหรือถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลอย่างรัดกุมตามกฎหมาย PDPA เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในระยะยาว

อนาคตของ Insurtech ในไทย

เมื่อมองไปข้างหน้า ภาพของ Insurtech ในประเทศไทย กำลังขยับเข้าใกล้ยุค “ประกันภัยอัจฉริยะ” ที่ผสานเทคโนโลยีเข้ากับชีวิตประจำวันอย่างแนบเนียน หนึ่งในแนวโน้มสำคัญคือ การบูรณาการ Insurtech เข้ากับ HealthTech และ FinTech ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบบริการประกันภัยไปอย่างสิ้นเชิง เช่น

  

  • การใช้ข้อมูลสุขภาพแบบเรียลไทม์จาก Smartwatch หรือแอปพลิเคชันสุขภาพ เพื่อคำนวณเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมกับร่างกายและพฤติกรรมของแต่ละคน
  • การชำระเบี้ยฯ หรือเคลมผ่านระบบการเงินดิจิทัลที่ปลอดภัยและรวดเร็ว
  • การออกแบบกรมธรรม์ที่เชื่อมโยงกับบริการสุขภาพหรือการลงทุน เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองและผลตอบแทนในเวลาเดียวกัน

  

เมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริโภคจะได้สัมผัส “ประสบการณ์ประกันภัยครบวงจร” ที่ตอบโจทย์ทั้งการดูแลสุขภาพ การบริหารความเสี่ยง และการจัดการทางการเงินได้ในที่เดียว

  

Insurtech คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวซื้อประกันง่ายและสะดวกมากขึ้น

  

การมาของ Insurtech ไม่ได้ทำให้บทบาทของตัวแทนประกันชีวิตสิ้นสุดลง แต่กลับกลายเป็นโอกาสสำคัญที่จะยกระดับอาชีพนี้ให้ทันยุคดิจิทัล เพราะแม้เทคโนโลยีจะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและความแม่นยำ แต่ “มนุษย์” ยังคงมีคุณค่าที่เทคโนโลยีทดแทนไม่ได้ นั่นคือการให้คำปรึกษา สร้างความไว้วางใจ และเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง

หากคุณต้องการเติบโตในอาชีพที่ผสาน “เทคโนโลยี” เข้ากับ “ความเข้าใจผู้คน” นี่คือเวลาที่เหมาะที่สุดในการสมัครตัวแทนขายประกันออนไลน์ AIA ภายใต้การดูแลของ Money Adwise เราพร้อมมอบการฝึกอบรมครบวงจรด้วยเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัย พร้อมให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพียงกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนที่หน้าเว็บไซต์วันนี้ แล้วรอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ เพื่อเริ่มต้นก้าวแรกของคุณในเส้นทาง “ตัวแทนประกันชีวิตยุคดิจิทัล” ไปพร้อมกับเรา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Insurance Technology, How InsurTech Is Assured. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 จาก https://www.forbes.com/sites/adrianbridgwater/2024/09/01/insurance-technology-how-insurtech-is-assured/.

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้